
ประมวลเรื่องปรัมปราโรมันหรือประมวลเรื่องปรัมปราละติน(อังกฤษ:RomanmythologyหรือLatinmythology)หมายถึงความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าของผู้ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในลาติอุมและเมืองสำคัญๆในคาบสมุทรอิตาลีของโรมันโบราณที่อาจจะแบ่งได้เป็นสองส่วนส่วนหนึ่งที่เป็นความเชื่อสมัยต่อมาและความเชื่อทางวรรณกรรมที่ประกอบด้วยความเชื่อที่มาจากประมวลเรื่องปรัมปรากรีกอีกส่วนหนึ่งเป็นความเชื่อเดิมที่เกิดขึ้นก่อนหน้าอิทธิพลกรีกที่มีลักษณะที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับประมวลเรื่องปรัมปรากรีกในสมัยต่อมา
ตรงกันข้ามกับการบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับเทพต่างๆโรมันจะมีตำนานมากมายที่เกี่ยวกับการก่อตั้งและความรุ่งเรืองของเมืองต่างๆนอกไปจากเรื่องราวที่เล่าขานกันตามท้องถิ่นก็มีการเพิ่มเติมตำนานวีรบุรุษของกรีกที่ปะติดปะต่อกับตำนานพื้นบ้านโรมันมาตั้งแต่สมัยแรกตัวอย่างเช่นอีเนียสของโรมันก็ถูกดึงไปเป็นสามีของลาวิเนียพระราชธิดาของกษัตริย์ลาตินัสผู้เป็นบรรพบุรุษของชนละตินฉะนั้นจึงเป็นบรรพบุรุษของรอมิวลุสและรีมุสฉะนั้นตำนานเกี่ยวกับโทรจันจึงกลายเป็นตำนานลึกลับเกี่ยวกับบรรบุรุษของชาวโรมันซึ่งเป็นสาเหตุให้ทหารม้าโรมันแต่งเครื่องแบบที่มาจากภาพวาดของโทรจันกวีนิพนธ์“เอนิอิด”(Aeneid)และหนังสือสองสามเล่มแรกโดยนักประวัติศาสตร์โรมันลิวี”(Livy)เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดเกี่ยวกับปรัมปราวิทยาของมนุษย์ดังกล่าว
ประเพณีปฏิบัติต่างๆโดยนักบวชของทางการของโรมันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความแตกต่างของเทพสองระดับ“di indigetes”และ“dinovensides”และ“novensiles”กลุ่ม“diindigetes”หมายถึงทวยเทพดั้งเดิมของโรมันชื่อและรายละเอียดของเทพกลุ่มนี้ระบุด้วยตำแหน่งของนักบวชรุ่นแรกที่สุดและโดยวันเทศกาลที่เฉพาะเจาะจงที่มีด้วยกัน30องค์ที่มีเทศกาลที่ระบุอย่างเฉพาะเจาะจงส่วน“dinovensides”และ“novensiles”คือเทพรุ่นต่อมาที่เข้ามาตามเมืองต่างๆในภายหลังและมักจะทราบเวลาที่เข้ามาตามความจำเป็นของสถานการณ์หรือวิกฤติการณ์ทวยเทพดั้งเดิมนอกไปจาก“diindigetes”เป็นกลุ่มทวยเทพที่เรียกว่า“เทพเฉพาะกิจเช่นเทพแห่งการเก็บเกี่ยวเศษชิ้นส่วนจากประเพณีที่เกี่ยวข้องกับกิจการต่างๆเช่นการไถหรือการหว่านทำให้เราทราบว่ากระบวนการทุุกขั้นตอนของกิจการของโรมันต่างก็มีเทพเฉพาะกิจต่างๆกันไปชื่อของเทพก็จะมาจากคำกิริยาของกิจการที่กระทำเทพเหล่านี้ก็จะจัดเป็นกลุ่มภายใต้กลุ่มกว้างๆหรือกลุ่มเทพสนับสนุน (attendant
หรือ auxiliary gods) ผู้ที่จะได้รับการกล่าวนามพร้อมกับเทพระดับสูง
เทพเฉพาะกิจและเทศกาลที่เกี่ยวข้องทำให้เราทราบว่าชาวโรมันสมัยแรกนอกจากจะเป็นกลุ่มชนที่เป็นสังคมเกษตรกรรมแต่ยังเป็นสังคมที่นิยมการต่อสู้และมักจะนิยมการทำสงครามนอกจากจะมีเทพเฉพาะกิจในด้านการเกษตรแล้วชาวโรมันก็ยังมีเทพเฉพาะกิจในกิจการประจำวันที่ต้องทำการสักการบูชาตามความเหมาะสมด้วยฉะนั้นเทพแจนัสและเทพีเวสตาก็จะเป็นผู้รักษาประตูและเตาผิง,เทพลารีสพิทักษ์ที่ดินและบ้าน,เทพพาลีสพิทักษ์ท้องทุ่ง,เทพแซทเทิร์นพิทักษ์การหว่าน,เทพีเซเรสพิทักษ์การเจริญเติบโตของธัญพืช,เทพีโพโมนาพิทักษ์ผลไม้และเทคอนซัสพิทักษ์ธัญญาหารและสถานที่เก็บรักษาธัญญาหารและเทพีอ็อพสพิทักษ์การเก็บเกี่ยวและเป็นเทพีแห่งการเจริญพันธุ์แม้แต่เทพจูปิเตอร์ผู้เป็นประมุขของทวยเทพก็ยังทรงเป็นเทพที่ช่วยให้ฝนตกเพื่อช่วยในการเกษตรกรรมและคุณลักษณะทั่วไปของพระองค์จากการที่ทรงมีสายฟ้าเป็นอาวุธทำให้ทรงได้ชื่อว่าเป็นผู้อำนวยการของกิจการที่มนุษย์กระทำและการที่ทรงมีอำนาจอันยิ่งใหญ่และกว้างขวางทำให้ทรงได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์กิจการทางทหารของชาวโรมันที่นอกไปจากในบริเวณเขตแดนของตนเองเทพเจ้าสำคัญในสมัยแรกก็ได้แก่เทพมาร์สและเทพควิรินัสผู้มักจะเป็นเทพในกลุ่มเดียวกันเทพมาร์สเป็นเทพเจ้าแห่งการสงครามที่ทำการฉลองกันในเดือนมีนาคมและตุลาคมส่วนเทพควิรินัสเชื่อกันโดยนักวิชาการสมัยใหม่ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งประชาคมผู้ถืออาวุธในยามสันติ
ในกลุ่มเทพของสมัยแรกก็มีไตรเทพ(triad)ที่สำคัญคือเทพจูปิเตอร์,เทพมาร์สและเทพควิรินัสเทพในสมัยแรกมักจะไม่มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่สำคัญและประวัติก็ไม่มีเรื่องราวของการสมรสหรือบรรพบุรุษซึ่งไม่เหมือนกับเทพเจ้ากรีกเพราะจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์เดินดิน
ฉะนั้นจึงแทบจะไม่มีเรื่องราวของกิจการที่กระทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น